ทำแบรนด์มาอย่างดี แต่ของกองเต็มบ้าน ขายไม่ออกเลย ทำยังไงดี ? เทคนิคใต้คอมเมนต์ค่า
- nanniizriseacademy
- 1 พ.ย. 2567
- ยาว 1 นาที
ใครที่กำลังอ่านอยู่ อยากบอกเลยว่า ไม่ใช่มีแค่คุณที่เป็นแบบนี้คนเดียว แน่นอน มีหลายคนที่เป็นแบบนี้ เดี๋ยววันนี้ แนนมาแชร์ เทคนิคง่ายๆ ที่เริ่มได้เลย
[1] ทำความเข้าใจสินค้าก่อน
แน่นอน ที่ขายไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจสินค้า เจ้าสินค้าที่ภายนอกเหมือนกัน แต่ภายในบางอย่าง หรือ หลายอย่าง มันไม่เหมือนกันเลยก็มี
เราในฐานะเจ้าของแบรนด์ ผู้ทำการตลาด ผู้ขาย จะต้องศึกษาสินค้าให้ดีมากๆ ก่อน ในทุกๆมุม ไม่ว่าจะเป็นทางรูปธรรม นามธรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของ “ผลลัพธ์” ลองเขียนสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับสินค้า ดังนี้
- ช่วยให้เกิดผลลัพธ์อะไร เช่น สิวหาย, ผิวฉ่ำ, หุ่นดี, หายปวดเข่า, เดินนานไม่ปวดเท้า, ใส่แล้วเอวคอด, ใส่แล้วดูขาเรียว, ใส่แล้วขับผิว เป็นต้น เราต้องตอบให้ได้ก่อน ว่าผลลัพธ์ของสินค้า และบริการเราคืออะไร
- ข่วยแก้ปัญหาเรื่องอะไร เช่น ลดฝ้า, ลดสิว, ลดผื่น, ลดหน้าท้อง, ลดอาการปวดเข่า, ช่วยให้มีเอวคอดแม้เอวจริงดูไม่คอด, ช่วยพรางหุ่น เป็นต้น ทุกสินค้าถ้ามองให้ดีๆ แก้ปัญหาได้หมด บางปัญหา คือแก้เรื่องจิตใจ เราต้องดึงฟีลเยอะๆ ถ้าปัญหานั้นแก้ที่จิตใจ
- ใครที่เหมาะกับสินค้าเรา “ที่สุด” ย้ำว่า “ที่สุด” เพราะในเฟสแรก ของการทำการตลาดฉบับคนตัวเล็ก ต้องพุ่งเป้าไปที่กลุ่มนี้ก่อน ต้องเฉียบคม และตัดสินใจให้ขาด ว่าใครคือลูกค้าที่จะต้องใช้สินค้าเราแน่ๆ
[2] Selling Point ที่แตกต่าง และโดดเด่น
ใช้กฎการ บวกหนึ่ง เสมอ ถ้าคู่แข่งมี เราบวก หนึ่งได้ไหม โดย บวก 1 นั้น เอามาจากความถนัด ประสบการณ์ สิ่งใกล้ตัว ได้
มองคู่แข่งทั้งในด้านจุดแข็ง และจุดอ่อน จะทำให้เราเจอ Selling Point ที่แตกต่างและโดดเด่น เช่น แนนจะทำแบรนด์ ลิปกลอส เราจะทำลิปกลอสสำหรับผู้หญิงริมฝีปากคล้ำ ( ทำเพื่อผู้หญิงริมฝีปากคล้ำ คือ บวก 1 แล้ว) จะช่วยให้การสื่อสาร ช่วงแรก ชัดเจน และนั่งในใจลูกค้ากลุ่มนี้ได้เร็ว และง่ายต่อการเปิดตลาดในสเต็ปถัดไปวิธีนี้ แนนใช้กับหลายแบรนด์ ได้ผลดีมากๆ
[3] โฟกัสกลุ่มลูกค้า ห้ามขายให้กับทุกคน
รู้ไหมว่า แบรนด์ Royalty เริ่มสร้างได้ตัังแต่วันแรกที่เราวางแผน เมื่อไหร่ที่เราโฟกัสลูกค้า เปรียบเสมือน เราเป็นพวกเดียวกับลูกค้า พอเกิดความรู้สึกเป็นพวกเดียวกัน มันจะเกิดการสื่อสารแบบเพื่อนสู่เพื่อน ทุกคอนเทนต์จะเข้าใจ จะมีพฤติกรรม จะมีความสนใจของลูกค้าอยู่ แล้วการเชื่อใจแบรนด์ จะเกิดได้ง่าย “เชื่อใจ > ซื้อ > นั่งในใจ > บอกต่อ”
คอนเซปต์การทำแบรนด์คือ เราไม่จำเป็นต้องมีลูกค้าเยอะ แต่มีลูกค้าที่เชื่อใจ และมั่นใจในตัวแบรนด์จริงๆ จะทำให้แบรนด์ยั่งยืนและเติบโตได้ง่ายกว่า ที่สำคัญ ลดค่าการตลาดได้ง่ายมากๆ
[4] เลือกช่องทางขายที่ใช่
ต่อจากข้อที่ 3 ช่องทางขายที่ใช่ จะเจอลูกค้าที่ใช่ได้เร็ว อย่าตามกระแส แต่กลับมาดูที่ตัวเรา ลูกค้าเราอยู่ไหนกันแน่ ใช่ Facebook รึเปล่า ใช่ Tiktok รึเปล่า ใช่ Instagram รึเปล่า หาข้อมูล และศึกษาพฤติกรรมลูกค้าดีๆ และเทน้ำหนักไปที่แพลตฟอร์มที่ลูกค้าเราอยู่จริงๆ + แพลตฟอร์มที่เราถนัดจริงๆ จะทำให้เราเติบโตได้รวดเร็ว และเชื่อไหมว่า แค่ 1 แพลตฟอร์มที่โฟกัสจริงๆ ก็รวยวุ่นวายแล้ว ^^
เป็นยังไงบ้างคะ ใครมีปัญหาการทำแบรนด์แบบไหนบ้าง แจ้งได้เลยนะคะ ไว้จะมาแชร์เทคนิคอีกค่า





-01.png)




ความคิดเห็น