แจกฟรี! ทริคสั้นๆ หาสินค้าและการทำตลาดไวแบบฉับๆ

สวัสดีค่าาาาาา วันนี้แนนมาแจกทริคการหาสินค้าและการทำการตลาดอย่างฉับไวกันค่ะ เน้นเป็นการร่างไอเดียแบบเร็วๆ รวบๆ เพื่อจะได้เอาไปต่อยอดในอนาคตนะคะ

วิธีการ หยิบกระดาษขึ้นมาหนึ่งแผ่น พร้อมร่างไอเดียตามหัวข้อด้านล่างเล้ยยย

1. หาปัญหา ลองคิดดูว่าปัญหาที่เราเจอ หรือคนรอบตัวเจอมีอะไรบ้าง

2. เจอปัญหา เช่น พนักงานออฟฟิศ เจอปัญหาออฟฟิศซินโดรม สาวพลัสไซส์ หาเกงเกงใส่ยาก

3.สินค้าที่ช่วยแก้ปัญหา ลองมองหาสินค้าที่จะมาแก้ปัญหาเหล่านั้น

4.ศึกษากลุ่มลูกค้า (Persona) เมื่อได้ปัญหา ได้สินค้าแล้ว ลองมาดูกันว่าลูกค้าที่เจอปัญหาดังกล่าวต้องเป็นคนแบบไหน พฤติกรรมยังไง ตรงนี้เราสามารถเขียนโดยการจินตนาการขึ้นมาได้เลยค่ะ เขียนหลายๆคนดู แล้งจะรู้ชัดเจนว่าสรุปแล้งหน้าตาของลูกค้าเราเป็นยังไง

5.ทำคอนเทนต์ Painpoint ดึงเอาจุดเจ็บปวดของลูกค้าออกมาทำคอนเทนต์ เช่น ปวดหลัง แก้ไม่หาย รักษาได้ ด้วยเครื่องนวดไฟฟ้าพกพา

6.ทำคอนเทนต์เพิ่มคุณค่าให้สินค้า นำเสนอคุณค่าของสินค้า ทำให้ลูกค้าเห็นว่าสินค้าเรามีประโยชน์ ใช้แล้วทำให้ปัญหาที่ลูกค้าเจอหมดไป

7.ให้ KOL ช่วยส่งสาร จ้างอินฟลูเอนเซอร์ในการช่วยส่งสาร ผ่านการรีวิว ด้วยรูป ด้วยคลิปวิดีโอ หรือบทความ

8.แบรนด์ยิงแอด เข้าสู่ช่วงการเริ่มยิงแอดเพื่อเปิดทางให้สินค้าของเราค่ะ ทั้งนี้การยิงแอดไม่ใช่การตลาดเพียงอย่างเดียว อย่าลืมเก็บงบไว้ทำการตลาดด้านอื่นบ้าง

9.สร้าง Awareness FB TT IG Pantip การสร้างการรับรู้กี่ยวกับแบรนด์ สินค้า หรือบริการของคุณให้กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการทางการตลาด เนื่องจากเป็นการทำให้ผู้คนเริ่มรู้จักและสนใจสิ่งที่คุณนำเสนอ โดยแต่ละแพลตฟอร์มมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน สามารถวิเคราะห์แยกเป็นแต่ละแฟลตฟอร์มได้เลย แต่ละแพลตฟอร์มจะเน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามธรรมชาติของแต่ละแพลตฟอร์ม แต่เป้าหมายหลักคือการสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์หรือสินค้าของคุณให้กับผู้คนจำนวนมากขึ้น

10.มีคลิปติด หรือ แอดติด 1 อัน เมื่อเข้าสู่การทำการตลาดมาได้ช่วงหนึ่งแล้ว เราจำเป็นต้องมีคลิปหรือโฆษณาที่แมสหรือลูกค้าติดสัก 1 คอนเทนต์ค่ะ

11.สเกลแอด การขยายหรือเพิ่มขนาดแคมเปญโฆษณาที่กำลังประสบความสำเร็จให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยอาจหมายถึงการเพิ่มงบประมาณ เพิ่มจำนวนโฆษณา หรือปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นในแง่ของการเข้าถึง (reach), การมีส่วนร่วม (engagement), หรือการแปลงเป็นยอดขาย (conversions)

12.รีบหาคลิปและส่งคอนเทนต์รีทาเก็ตรัวๆ ถึงขั้นตอนนี้คือการรีทาร์เก็ตให้ลูกค้าเก่าๆ หรือคนที่สนใจจะซื้อกลับมาหาเราจะ เป็นการหลอกหลอนเขาจนกว่าจะซื้อ

13.เพิ่มโปรโมชั่น เร่งตัดสินใจ อย่าลืมคิดโปรโมชั่น สำหรับเร่งให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่านขึ้น เช่นราคาเต็ม 990 บาท ซื้อวันนี้ลด 10%

14.ปิดการขายตามช่องทางต่างๆ มี Shopee/ Lazada รองรับ > ทำคอนเทนต์เพิ่มอีก เพิ่มแฟลตฟอร์มในการขายให้มากขึ้นอื่น

15.Maintain Ads, KOL

16.CRM ทำให้เกิด royalty > advocacy ให้ได้

17.หาสินค้าตัวต่อไปที่แก้ปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกัน อย่าลืมว่าสินค้าแต่ละตัวมีวงจรชีวิตของมัน ทางทีดีคือต้องควรมีสินค้าตัวที่ 2,3,4,5 ออกมาเรื่อยๆ

18.เริ่มกระบวนการอีกรอบ

ยิ่งสินค้าแก้ปัญหาได้มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ลูกค้าติดมากขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้ว การหาปัญหาให้เจอ จะทำให้สามารถหาสินค้าตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลต่อยอดขายของเราด้วยค่ะ

ยกตัวอย่างการหาสินค้าโดยเริ่มจากปัญหา

ปัญหาคนสูง กางเกงขาลอย > กางเกงสำหรับคนสูง 170+

ปัญหาคนมีพุง > เสื้อพรางหุ่น หรือ กางเกงในเก็บพุง

ปัญหาผู้สูงอายุอยากเป็นที่ยอมรับเวลาไปหาเพื่อน > เสื้อสวยๆใส่เพิ่มความมั่นใจ

ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ > สครับขัดผิว

ปัญหาข้อเข่าเสื่อม > วิตามินบำรุงข้อเข่า

ปัญหาคนผมหนาเป่าผมยาก > ไดร์เป่าผม + ผ้าเช็ดแบบแห้งไว

ปัญหาคนอยากกำจัดขนแต่ไม่อยากไปคลินิก > เครื่องเลเซอร์แบบพกพาง่าย

ปัญหาคนผมร่วง > เซรั่ม หรือ แชมพูลดผมร่วง

ปัญหาคนใส่แว่นแล้วเป็นฝ้า > เลนส์กันฝ้า

ปัญหาคนขี้ลืม > air tag

ปัญหาเด็กติดจอ > ของเล่นเบี่ยงเบนหน้าจอ

ปัญหาแม่ฟูลไทม์ไม่มีเวลาพัก > ของเล่นที่ลูกเล่นได้นานๆ

เมื่อคิดจากปัญหาแล้วสินค้าที่จะช่วยแก้ปัญหาจะตามมา สามารถลองปรับใช้ได้กันเลยนะคะ หากใครมีข้อสงสัย สามารถพิมพ์คอมเมนท์สอบถาม หรือสมัครคอร์สเรียนได้เลย